กำเนิดรัฐชาติ และ ปัจจัยการกำหนดรัฐชาติต่างๆในยุโรป สมัยกลาง
ในช่วงประมาณ ปี ค.ศ. 1300- 1600
ได้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญขึ้นในประเทศตะวันตก
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงกังกล่าวนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง การเปลี่ยนแปลงทางความคิด
วิถีชีวิตของผู้คนในตะวันตก ซึ่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้เป็นส่วนที่ทำให้ยุโรปกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง
เศรษฐกิจของโลกในช่วงเวลาต่อๆมา ก่อนที่ประวัติศาสตร์จะก้าวไปสู่สมัยใหม่
มีพัฒนาการสำคัญที่เป็นจุดเชื่อมโยงจากสมัยกลางไปสู่สมัยใหม่ได้แก่ รัฐชาติ
รัฐชาติ
ในคริสต์ศตวรรษที่
15 กษัตริย์ยุโรป 4 ประเทศประสบความสำเร็จในการก่อตั้งรัฐชาติขึ้น
เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ อันได้แก่
๑. ความเสื่อมของขุนนางในระบบศักดินาสวามิภักดิ์
และการค้นพบดินปืนในคริสต์ศตวรรษที่ 14
๒. การขยายตัวของเศรษฐกิจการค้า
๓. ความสำนึกในความเป็นชาติอันเกิดจากการใช้ภาษาเดียวกันในแต่ละดินแดน
รัฐชาติที่สำคัญและมีบทบาทในช่วงสมัยใหม่ตอนต้น
ได้แก่
1.
สเปน
สเปนเป็นรัฐชาติที่มีอำนาจและอิทธิพลที่สุดในสมัยคริสต์ศตวรรษที่
15 เติบโตขึ้นในสมัยกษัตริย์
เฟอร์ดินานด์แห่งอาเรกอน
และพระนางอิซาเบลลาแห่งคาสตีล ทั้งสองพระองค์ทรงรวม 2 อาณาจักรเข้าด้วยกันใน ค.ศ. 1469
ความรุ่งโรจน์ถึงขีดสูงสุดของการค้าปรากฏใน ค.ศ. 1492 เมื่อมีการค้นพบโลกใหม่ในนามของสเปน
ทางด้านศาสนา
ประมาณปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 ปรากฏว่าชาวสเปนที่นับถือศาสนายิวจำนวนมากเปลี่ยนมานับถือคริสต์ศาสนา
แต่ก็นับถือเพียงภายนอก ในปี ค.ศ. 1492 ชาวยิวสเปนที่เหลืออยู่ก็ถูกขับไล่ออกจากประเทศ
สเปนรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่มากขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลที่
5 จนกระทั่งถึงสมัยต่อมาของพระเจ้าฟิลิปที่ 2 ที่สเปนยิ่งใหญ่ ร่ำรวยมั่งคั่งด้วยเงินทองจากเปรู เม็กซิโก
การค้าโพ้นทะเล และสามารถรวมโปรตุเกสเข้าไว้ได้ในระยะหนึ่งด้วย ตั้งแต่ ค.ศ. 1580
– 1640
2.
โปรตุเกส
โปรตุเกสมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่
11 เมื่อเคาน์เฮนรี่แห่งเบอร์กันดีได้ช่วยเหลือ
กษัตริย์เลออนแห่งสเปนต่อสู่พวกมัวร์
จึงได้รับพระราชทานที่ดินผืนใหญ่ในบริเวณโอปอร์โต
ซึ่งต่อไปจะกลายเป็นประเทศโปรตุเกส
รัฐโปรตุเกสไม่สามารถขยายตัวออกทางบกได้
จึงหาทางออกทางทะเลในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ภายใต้ การสนับสนุนของเจ้าชายเฮนรี่ นำธงชาติโปนตุเกสไปโบกสะบัดอยู่รอบแหลมกู๊ดโฮปและประเทศอินเดีย
และเริ่มวางรากฐาน การแบ่งเขตอิทธิพลของสเปนและโปรตุเกสโดยสันตะปาปาเมื่อ ค.ศ. 1493
และสนธิสัญญาทอร์เดซิลลัสที่ทำกับสเปนใน ค.ศ. 1494 ทำให้โปรตุเกสได้รับเอกสิทธิ์การค้าทางภาคตะวันออก
โปรตุเกสกวาดล้างและเนรเทศประชาชนที่เป็นยิว
มุสลิม และโปรเตสแตนท์ เช่นเดียวกับสเปน ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 ความรุ่งโรจน์ของเศรษฐกิจก็เริ่มเสื่อมลง
เมื่อโปรตุเกสต้องสูญเสียอิทธิพลในการผูกขาดการค้าเครื่องเทศในเอเชียให้แก่ฮอลันดาในต้นคริสต์ศตวรรษที่
17
3.
ฝรั่งเศส
การนำของโจนออฟอาร์คทำให้ชาวฝรั่งเศสเกิดความสำนึกในชาติ
และช่วยให้ประสบความสำเร็จ
ในการขับไล่ชาวอังกฤษออกจากประเทศได้ในสงครามร้อยปี
( ค.ศ.1337 – 1453 ) จากนั้นฝรั่งเศสก็เข้าสู่ความเป็นรัฐชาติแบบใหม่ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่
11 แห่งราชวงศ์ลัว
ฝรั่งเศสเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นในสมัยราชวงศ์บูร์บอง
ซึ่งเริ่มต้นจากสมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 ทำให้ฝรั่งเศสมีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ
ตลอดจนทรงฟื้นฟูอำนาจกษัตริย์และรัฐบาลกลาง
อันเป็นรากฐานให้แก่อำนาจอันมั่งคงของกษัตริย์ฝรั่งเศสต่อมา
โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 4
4.
อังกฤษ
อังกฤษเข้าสู่สมัยใหม่ในสมัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่
7 แห่งราชวงศ์ทิวดอร์ ทรงปรบปรามอิทธิพล
ของขุนนางศักดินาด้วยการยกเลิกกองทัพศักดินา
เติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในสมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เมื่อพระองค์ทรงปฏิรูปศาสนาและก่อตั้งนิกาย Anglican Church ขึ้นใน ค.ศ.1534
สมัยของพระนางเอลิซาเบธที่ 1 สถาบันกษัตริย์ก็ยิ่งมีอำนาจสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
มีการขยายตัวโพ้นทะเล และทำสงครามชนะกองทัพเรืออาร์มาดาของสเปน ในปี ค.ศ. 1588
ด้านเศรษฐกิจ ตั้งบริษัท East India Company ใน ค.ศ. 1600 ซึ่งเป็นการสร้างความมั่งคั่งให้ประเทศและชนชั้นกลางเป็นอันมาก
5.
จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และรัฐต่าง ๆ ในบริเวณเยอรมนี
จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
หมายถึง จักรวรรดิที่มีอำนาจปกครองดินแดนที่อยู่ตอนกลางของ
ทวีปยุโรป
ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยกลางเมื่อจักรพรรดิช์ลมาญ
ทรงรวบรวมดินแดนในยุโรปตอนกลางไว้ได้
ทรงได้รับการสวมมงกุฎจากพระสันตะปาปาเป็นจักรพรรดิปกครองดินแดนเหล่านี้ตั้งแต่ปี
ค.ศ. 800 แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา
เจ้าในราชวงศ์แฮปเบิร์ก ซึ่งมีศูนย์กลางการปกครองที่เวียนนา
ได้รับเลือกตั้งตำแหน่งนี้อย่างสม่ำเสมอ จนค่อย ๆ
กลายเป็นประเพณีได้ปกครองจักรวรรดิต่อมา
จักรวรรดินี้ดำรงอยู่ต่อมาตราบจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนกระทั่งฝรั่งเศสในสมัยของนโปเลียนเข้าทำลายจักรวรรดิลงในปี
ค.ศ. 1806
6.
อิตาลี
เมื่อเข้าสู่สมัยใหม่ตอนต้น
อิตาลีแบ่งอกเป็นรัฐอิสระต่าง ๆ ที่มีฐานะทางการเมืองและเศรษฐกิจ
แตกต่างกัน
อิตาลีไม่อาจรวมชาติได้เพราะปัญหาจากรัฐสันตะปาปา
ดินแดนส่วนหนึ่งตอนกลางของแหลมอิตาลีที่อยู่ในความครอบครองของสันตะปาปามาตั้งแต่สมัยกลาง
จนกระทั่ง ค.ศ.1870 อิตาลีจึงรวมรัฐชาติได้สำเร็จ
แสดงความคิดเห็นได้นะครับ